ผู้ประกอบการหน้าใหม่ : สตาร์ทอัพ (Startup)
•
0 likes•2,530 views
คุณสมบัติของ Startup เกิดใหม่ (Newly Created) มีนวัตกรรม (Innovation) ขายซ้ำได้ (Repeatability) สเกลได้ (Scalability)
Recommended
More Related Content
What's hot
What's hot (20)
More from Dr.Kridsanapong Lertbumroongchai
More from Dr.Kridsanapong Lertbumroongchai (20)
ผู้ประกอบการหน้าใหม่ : สตาร์ทอัพ (Startup)
- 2. STARTUP บริษัทหรือธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น เรียกได้ว่าเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่ หรือจากระบบการทางาน แบบเดิมในองค์กรใหญ่ ออกมาสร้างทีมขนาดเล็ก ตั้งเป็นธุรกิจตามความถนัดของตนเอง โดยมี ผลผลิตของธุรกิจคือนวัตกรรมใหม่ที่หวังจะช่วยแก้ไขปัญหาในแง่มุมต่างๆ ให้กับคนในสังคม สตาร์ทอัพ
- 3. คุณสมบัติของ Startup • เกิดใหม่ (Newly Created) • มีนวัตกรรม (Innovation) • ขายซ้าได้ (Repeatability) • สเกลได้ (Scalability)
- 6. ขำยซำได้ สิ่งที่นาเสนอนั้นสามารถที่จะขายซ้าได้เรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าขายได้เพียงครั้งเดียวจบ ผู้ใช้ที่มีความจาเป็น ต้องมาซื้อซ้าหรือใช้บริการอื่นๆ ของบริษัทอีกต่อไป Repeatability
- 7. สเกลได้ สิ่งที่นาเสนอสามารถที่จะขยายขีดความสามารถ (Scale Up) และโดยเฉพาะสามารถขยายตลาดผู้ใช้ ออกไปในวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว Scalability
- 9. ไม่ได้จากัดว่าต้องเป็นเทคโนโลยีทางไอทีหรือคอมพิวเตอร์เท่านั้น เช่น Mighty Mug เป็นแก้วน้าที่ปัดชนยังไงก็ไม่ล้มไม่หก แต่สามารถหยิบยกขึ้น ดื่มได้ง่าย โดยมีหลักการมาจากการใช้วิศวกรรมเครื่องกลเลียนแบบกลไก การยึดเกาะพื้นผิวของสัตว์จาพวกปลาหมึกหรือกบ TECHNOLOGY STARTUP TECH STARTUP
- 10. หลายแห่ง ประสบความสาเร็จในฐานะเทคสตาร์ทอัพ และได้ถูกซื้อกิจการไปด้วยมูลค่าสูง และเทคสตาร์ทอัพอีกหลายแห่ง เช่น Facebook, Google, Amazon, Alibaba ฯลฯ ก็เติบใหญ่จาก Startup กลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ทรงอิทธิพลไปอย่างสมบูรณ์แล้วในปัจจุบัน STARTUP
- 11. INSTAGRAM เทคสตาร์ทอัพที่ประสบความสาเร็จ ที่มีจานวนทีมงานเพียง 13 คน แต่เป็น แอพพลิเคชั่นที่มียอดผู้ใช้งานกว่า 30 ล้านคน และถูก Facebook ซื้อกิจการ ไปในปี ค.ศ. 2012 ด้วยมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- 12. ลีนสตำร์ทอัพ ปัจจุบันมีเทคสตาร์ทอัพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โอกาสที่จะประสบความสาเร็จมีเพียง ไม่ถึงร้อยละ 10 เท่านั้น อีกมากกว่าร้อยละ 90 มีโอกาสล้มเหลว Lean Startup • สาเร็จ • ล้มเหลว
- 14. ดังนันจึงใช้แนวคิด คือการที่ Startup ค่อยๆ ลงทุนสร้างผลิตภัณฑ์ขึ้นมาทีละนิด แล้วก็รีบนามาให้ผู้ใช้ทดสอบทันที ผลทดสอบสามารถนาไปปรับปรุงถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ Version ถัดมา วนซ้าไปเรื่อยๆ พัฒนา ผลิตภัณฑ์ให้ค่อยๆ ดีขึ้น โดยไม่ลืมคานึงถึงความต้องการของผู้ใช้กลุ่มตั้งต้นในการพัฒนา ผลิตภัณฑ์แต่ละรอบ LEAN STARTUP
- 15. คือ การย่นระยะเวลาที่ใช้ใน 1 รอบของการ “สร้าง-ทดสอบ-เรียนรู้” ผลิตภัณฑ์ลงให้เหลือสั้นที่สุด โดยแบ่งกระบวนการสร้างผลิตภัณฑ์ออกเป็นรอบย่อย หากรอบใดมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ความ สูญเสียเฉพาะในรอบย่อยนั้นจะไม่หนักหนาสาหัส ยังสามารถย้อนกลับหรือแก้ไขปรับเปลี่ยนได้ทัน LEAN STARTUP หลักกำรของ ทดสอบ (Measure) สร้าง (Build) เรียนรู้ (Learn)
- 16. MINIMUM VIABLE PRODUCT เป็นสินค้าและบริการต้นแบบที่สามารถใช้งานได้แล้ว แต่จะมีเฉพาะฟังก์ชันที่สาคัญและจาเป็นที่ พอใช้งานได้ ทามาเพื่อจาหน่ายกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ชอบลองใช้สินค้าใหม่ๆ โดยผู้พัฒนา สินค้าและบริการจะรับ feedback จากลูกค้าเพื่อนามาพัฒนาสินค้าและบริการต่อไป MVP
- 17. PRODUCT MARKET FIT เป็นสินค้า/บริการที่พัฒนาเพิ่มเติมจาก MVP ให้สมบูรณ์และรองรับความต้องการของลูกค้า ได้มากขึ้น PMF
- 18. กระบวนกำร 6 ขันตอนของลีนสตำร์ทอัพที่อ้ำงอิงกับพีระมิด Product Market Fit 1. เลือกผู้ใช้กลุ่มเป้าหมาย 2. ระบุความต้องการที่ยังไม่ถูกเติมเต็มอย่างเต็มที่ของผู้ใช้ 3. กาหนดคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ที่จะนาเสนอแก่ผู้ใช้ 4. กาหนดเซตของฟีเจอร์สาหรับ Minimum Viable Product (MVP) 5. สร้าง Minimum Viable Product (MVP) ตัวต้นแบบ 6. นาตัวต้นแบบ Minimum Viable Product (MVP) ไปให้ผู้ใช้ทดสอบจริง
- 19. ลักษณะสาคัญของพีระมิด Product Market Fit คือ การที่แต่ละชั้นในพีระมิดเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกันอยู่ ทาให้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชั้นใดชั้นหนึ่ง สามารถส่งผลกระทบต่อไปยังชั้นอื่นๆ ได้ โดยชั้นบนสามารถปรับเปลี่ยนได้ง่ายกว่าชั้นล่าง เช่น ปรับ UX สามารถทาได้ง่ายกว่าปรับฟีเจอร์ 5. UX 4. ฟีเจอร์สาหรับ MVP 3. กาหนดคุณประโยชน์ Product Market Fit (PMF) 2. ความต้องการที่ยังไม่ถูกเติมเต็ม 1. ผู้ใช้กลุ่มเป้าหมาย ผลิตภัณฑ์ ตลาด
- 20. ในกรณีของการสร้างผลิตภัณฑ์หรือฟีเจอร์ใหม่ 6 ขั้นตอนจาเป็นที่จะต้องถูกทาทั้งหมด หากเป็นการเสริมต่อยอดจากให้ทาขั้นตอนที่ 4-6 เพื่อสร้างและทดสอบฟีเจอร์ส่วนเพิ่มเติม ให้สามารถ นาเสนอคุณประโยชน์หลักของผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้กลุ่มเป้าหมายให้ได้เท่านั้น 5. UX 4. ฟีเจอร์สาหรับ MVP 3. กาหนดคุณประโยชน์ Product Market Fit (PMF) 2. ความต้องการที่ยังไม่ถูกเติมเต็ม 1. ผู้ใช้กลุ่มเป้าหมาย 6. ทดสอบกับผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ ตลาด
- 22. เพื่อไม่ให้ติดกับอยู่ในส่วนของการคิดถึงใส่วิธีแก้ปัญหา ก้าวแรกของการสร้างผลิตภัณฑ์ที่คานึงถึง Product Market Fit (PMF) จึงต้องเริ่มจากส่วนของปัญหาก่อน โดยต้องตีโจทย์ให้แตกว่าอะไรคือสิ่งที่ ผลิตภัณฑ์ต้องมี จึงจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้กลุ่มเป้าหมายได้ UX ฟีเจอร์สาหรับ MVP กาหนดคุณประโยชน์ Product Market Fit (PMF) ความต้องการที่ยังไม่ถูกเติมเต็ม ผู้ใช้กลุ่มเป้าหมาย ผลิตภัณฑ์ ตลาด ส่วนของวิธีการแก้ปัญหา ส่วนของปัญหา
- 23. เมื่อตีโจทย์แรกนี้แตกแล้วจึงค่อยขยับไปสู่ส่วนของวิธีการแก้ปัญหาว่าแล้วเราคิดเป็นผู้สร้างผลิตภัณฑ์ จะต้องทาอย่างไรจึงจะสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีสิ่งนั้นที่ผู้ใช้ต้องการออกมาได้ UX ฟีเจอร์สาหรับ MVP กาหนดคุณประโยชน์ Product Market Fit (PMF) ความต้องการที่ยังไม่ถูกเติมเต็ม ผู้ใช้กลุ่มเป้าหมาย ผลิตภัณฑ์ ตลาด ส่วนของวิธีการแก้ปัญหา ส่วนของปัญหา
- 25. แบบฝึกหัด สืบค้นและยกตัวอย่างธุรกิจเทคสตาร์ทอัพ 1 ธุรกิจ ที่ประสบปัญหาการขาด Product Market Fit (PMF) (ปัญหาผลิตภัณฑ์ที่สร้างมาแต่ไม่มีคนใช้หรือมีแต่ไม่มากพอ) พร้อมตอบคาถามต่อไปนี้ 1. ให้วิเคราะห์ว่าอะไรคือตลาด (Market) ที่เป็นเป้าหมายของผู้ดาเนินธุรกิจนี้ 2. ให้วิเคราะห์ว่าอะไรคือผลิตภัณฑ์ (Product) ที่ธุรกิจนี้นาเสนอ 3. ให้วิเคราะห์พร้อมแสดงความคิดเห็นว่าอะไรน่าจะเป็นสาเหตุของปัญหา Product Market Fit (PMF) หรือปัญหาตลาดและผลิตภัณฑ์ ไม่ตอบโจทย์ซึ่งกันและกันของธุรกิจนี้